ช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษลูกที่บ้านยังไงให้ได้ผล?

ช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษลูกที่บ้านยังไงให้ได้ผล?

ในปัจจุบันภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาพื้นฐานที่ทุกคนต้องฟังพูดได้พอๆกับภาษาไทยไปแล้ว พ่อแม่มักถามถึงวิธีการส่งเสริม สนับสนุนให้ลูกทางด้านภาษา แต่บางครั้งความคาดหวังและความกังวลอาจส่งไปถึงลูกจนเป็นผลให้ลูกยิ่งไม่พูดหรือต่อต้าน ไม่ได้ผลตามต้องการ เรามาดูกันว่าวิธีส่งเสริมที่ครูสอนภาษาให้เด็กไทยมากประสบการณ์กว่า 20 ปี มีคำแนะนำว่าอย่างไร

1. พ่อแม่สำเนียงไม่เป๊ะก็พูดได้! ไม่ต้องกังวลว่าพ่อแม่จะส่งต่อความไม่ถูก ไม่เป๊ะ ให้ลูก เพราะ message ที่สำคัญกว่าคือการที่ลูกได้เห็นพ่อแม่พยายามพูด ความพยายามคือสิ่งที่เราอยากให้ลูกเอาอย่าง ถ้าตัวพ่อแม่เองยังกังวลเรื่องผิดถูกจนไม่พูด ลูกก็จะกังวลเรื่องผิดถูกเหมือนกัน

 

นอกจากนั้น การสอนภาษาก็เหมือนโอ่งน้ำ ที่เราจะต้องเติมน้ำจนกว่ามันจะล้น มันอาจจะใช้เวลา ไม่เห็นน้ำล้นออกมาสักที แต่เมื่อไหร่ที่มันล้น มันจะออกมาเรื่อยๆไม่หยุด เหมือนตอนที่ลูกพูดได้

แต่ถ้าเรารีบตักน้ำออก เพราะอยากเห็นน้ำออกมาสักที น้ำก็จะไม่มีวันล้น แล้วเราก็จะได้เห็นน้ำตอนที่เราตักมันเท่านั้น

ดังนั้นหยุดเคี่ยวเข็ญ บังคับให้ลูกพูดในวันที่ลูกไม่พร้อม เพราะยิ่งดีเลย์การพูดภาษาอังกฤษออกไปอีก

2. หากไม่แบ่งพ่อแม่คนละภาษาอย่างชัดเจน ต้องเลือกเวลาและสถานที่ ไม่พูดปะปนจนเด็กแยกไม่ออก

ต้องเข้าใจว่าภาษาแม่เองเด็กๆ ก็ยังรู้ไม่หมด การพูดปนในประโยคเดียวกันจะสร้างความสับสนให้เด็กอย่างมาก ปกติครูจะแนะนำให้พ่อแม่เลือกสถานที่ที่เงียบ ไม่มีเสียงแทรกซ้อน และเลือกเวลาที่เจาะจง ให้เด็กรู้ว่าเวลาที่เราอยู่ในพื้นที่นี้พ่อหรือแม่จะพูดภาษาอื่น สถานที่ที่เหมาะคือ ในรถ ในห้องนอน เป็นต้น

3. พ่อและแม่พูดเองตอบเอง ไม่บังคับลูกตอบ หากลูกจะตอบ ให้ตอบอะไรก็ได้ แล้วแต่ลูก เช่น พ่อแม่ถามว่า “หิวไหม?” ลูกไม่ตอบ พ่อแม่อาจพูดต่อเองว่า “พ่อหิวมาก พ่ออยากจะไปกินข้าวมันไก่ หนูอยากกินไหม ?” หากลูกส่ายหัว พ่อพูดต่อว่า “อ้อ หนูไม่หิว ไม่อยากกินใช่ไหม”

 

จะเห็นว่าเราได้พูดให้ลูกได้ยินหมดแล้ว ทั้งคำถามและคำตอบ ทวนคำตอบของลูกด้วยตัวเอง เพื่อให้ลูกรู้ว่าถ้าเขาเกิดอาจจะตอบ เขาจะต้องพูดแบบไหน

เวลาที่ลูกพูดผิด พ่อแม่ไม่ติ ไม่บอกว่าผิด แต่ให้พูดแบบที่ถูกซ้ำ เช่น “อ้อ หนูชอบกล้วย ใช่ไหม” เด็กจะสังเกตุและจำโดยธรรมชาติ

ถึงลูกไม่ตอบ ไม่พูด พ่อแม่ก็ควรพูดเองต่อไป

4. อ่านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษที่มีความยาวพอเหมาะ มีภาพชัดเจนให้ลูกฟังทุกวัน

ภาษาพูดในชีวิตประจำวันเป็นคำซ้ำๆ ไม่หลากหลาย แต่การอ่านจะทำให้เด็กได้เจอคำศัพท์ใหม่ๆ มากมายไปพร้อมๆกับสร้างจิตนการ ความอยากที่จะอ่านออก ดังนั้นพ่อแม่ต้องอ่านนิทานทุกวัน ถึงแม้ลูกจะอยากฟังภาษาไทยมากกว่า พ่อแม่ให้เลือกภาษาไทยตามต้องการ และพ่อแม่เลือกภาษาอังกฤษเพื่ออ่านให้ตัวเองฟังเพิ่ม ลูกไม่จำเป็นต้องมานั่งฟัง พ่อแม่แค่อยากให้น่าสนใจ สนุก สุดท้ายทำไปเรื่อยๆลูกจะเดินมาฟังเอง ที่สำคัญบริเวณนั้น
ต้องไม่มีทีวี หน้าจอ เสียงญาติพี่น้องคุยกัน หรือสิ่งที่น่าสนใจกว่า เพราะเด็กจะไม่สามารถโฟกัสได้

 

5. คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ เด็กอยากคุยกับคนที่ตนเองชอบ ในเรื่องที่ชอบ ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป พ่อแม่ต้องหมั่นดูทิศทางของลูกด้วย

6. หากไร้ประสบการณ์ ก็ไร้คำพูด ไม่ต่างอะไรกับผู้ใหญ่ หากเราได้นั่งร่วมโต๊ะกับผู้คนที่คุยกันเรื่องการล่าสัตว์ แต่เราไม่มีประสบการณ์ในการล่าสัตว์เลย ถึงแม้เราจะเข้าใจสิ่งที่ทุกคนพูด แต่เราก็ไม่สามารถออกความเห็น ร่วมสนทนาได้ ดังนั้นนอกจากเรียนแล้ว พ่อแม่ต้องพาลูกออกไปใช้ชีวิต ให้เห็น สัมผัส ให้ได้คิดและมีความเห็นที่อยากจะสื่อสารด้วย เด็กเรียนภาษาเพื่อสื่อสาร หากรู้ภาษา แต่ไม่มีเรื่องที่อยากจะสื่อสาร ไม่ได้แคร์อะไร เด็กก็จะไม่พูดอยู่ดี

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn
Share on whatsapp
WhatsApp
Share on email
Email