จรรยาบรรณของผู้ใหญ่

ในฐานะผู้ใหญ่ในชุมชนของเรา คุณครู เจ้าหน้าที่ และ ผู้ปกครองควรเป็นแบบอย่างในการร่วมมือร่วมใจกัน เราขอให้ผู้ปกครองและผู้ใหญ่ทุกคนสนับสนุน และเข้าใจวิธีการ นโยบายต่างๆ ของโรงเรียน รวมถึงการนำวิธีการไปปรับใช้ที่บ้าน เป้าหมายของเราคือการเรียนรู้ 

หากผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง แสดงการไม่เคารพสมาชิกท่านอื่นๆในรวมถึงการใช้ภาษาหรือท่าทางที่ไม่เหมาะสมต่อเด็ก ต่อคุณครู เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน ผู้ปกครองท่านอื่น หรือไม่ร่วมมือในการไกล่เกลี่ยแก้ปัญหา เพื่อแก้ไขสถานการณ์ความขัดแย้งตามขั้นตอนที่ระบุไว้ด้านล่างนี้  แคร์โรลล์ เพรพ มีสิทธิ์ในการขอให้ครอบครัวที่มีปัญหาออกจากโรงเรียน และยุติสัญญาระหว่างครอบครัวและแคร์โรลล์ เพรพทันที 

กระบวนการเมื่อผู้ปกครองมีความกังวล

เรามุ่งเน้นการอยู่ร่วมกัน ผู้ใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการสื่อสารด้วยความเห็นอกเห็นใจ สื่อสารในแบบที่เราต้องการให้ลูกมองเป็นตัวอย่าง ผู้ใหญ่ที่แคร์โรลล์ เพรพ ต้องตระหนักถึงผลกระทบเชิงลบซึ่งอาจเป็นผลมาจากการสื่อสารเชิงลบ ผู้ปกครองควรงดเว้นการใช้ภาษาเชิงลบเมื่อพูดกับลูกของตนเอง พูดถึงเด็กคนอื่น หรือพูดกับผู้ปกครองเด็กคนอื่น โปรดเข้าใจว่าความรู้สึกกังวลของท่านที่พูดและไม่ได้พูดออกมา สามารถส่งต่อมายังบุตรหลานของท่าน ส่งผลต่อคำพูด พฤติกรรม ทัศนคติของบุตรหลานของท่านที่โรงเรียน

กระบวนการแก้ไขข้อขัดแย้ง

เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ชุมชนของเรา เป็นชุมชนที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ท้ายที่สุดแล้ว ปัญหาจะไม่สามารถแก้ไขได้หากบุคลากรของโรงเรียนไม่ทราบถึงปัญหา หรือไม่เข้าใจว่าสถานการณ์, นโยบายที่เราออกมานั้น เป็นปัญหาและสร้างความกังวลให้กับผู้ปกครอง ทางโรงเรียนมีคำแนะนำ ดังนั้น 

1. ระบุค้นหาต้นตอของข้อขัดแย้ง

• รับรู้ว่าความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติของมนุษย์และไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอหรือเป็นคนผิด การรับรู้ความรู้สึกของตนเองและเผชิญหน้ากับบุคคลที่เรามีความขัดแย้งต้องใช้ความกล้าหาญอย่างแท้จริง

• ปัญหาคืออะไร คุณสามารถระบุปัญหาโดยไม่โทษบุคคลอื่นหรือกลุ่มอื่นได้หรือไม่
แทนที่จะคิดว่า “เขาทำสิ่งนั้น เขาไม่ได้ทำสิ่งนี้” ให้เปลี่ยนเป็น “ฉันต้องการ….ฉันต้องการ….ฉันรู้สึก…” ตระหนักถึงความรู้สึกที่แท้จริงของคุณและความรู้สึกของผู้อื่น


2. หาวิธีที่ระบายความรู้สึกกังวลโดยไม่ทำลายบรรยากาศส่วนรวม ความรู้สึกของเรามีอิทธิพลอย่างมาก
และจะส่งผลต่อพฤติกรรม รู้เท่าทันความคิดของตนเอง หลีกเลี่ยงการกระจายปัญหาไปยังผู้อื่น หรือสร้าง
ความรู้สึกที่รุนแรงขึ้น 

หากเป็นไปได้ เราขอแนะนำให้พูดคุยกับครู หรือเจ้าหน้าที่ของเราทันทีที่มีข้อกังวล วิธีนี้จะทำให้ท่านได้สื่อสารโดยตรงกับผู้ที่สามารถแก้ไขปัญหาให้ได้ 

หมายเหตุ: ในสังคมของโรงเรียน ข้อขัดแย้งส่วนมากมักได้รับการแก้ไขในสองขั้นตอนนี้ 

ส่วนใหญ่ปัญหาทั่วไปในโรงเรียนมักเกิดจากการสื่อสาร สื่อสารน้อยไป มากไป สื่อสารผิดพลาด เป็นต้น เมื่อได้พูดคุยกันก็จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้โดยเร็ว 

3. หากคุณรู้สึกว่าจำ เป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติม คุณสามารถนนัดหมายกับผู้อำนวยการ หรือครูใหญ่ โดยกรอกฟอร์มหรือเขียนถึงข้อกังวลเป็นลายลักษณ์อักษร ระบุข้อกังวลของท่านและแนวทางการแก้ไขที่ท่านต้องการนำเสนอ เขียนให้ชัดเจนและรัดกุมมากที่สุด สอดคล้องกับสิ่งที่ท่านต้องการจากครูและโรงเรียนที่สุด

4. โปรดเชื่อใจ ว่าครูและผู้อำนวยการอยู่ฝั่งเดียวกันกับท่าน และเราจะรับฟังข้อกังวลของท่าน เราอาจใช้เวลาในการแก้ปัญหา สังเกตสถานการณ์โดยตรง หรือรวบรวมข้อมูลต่างๆ อาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ โปรดให้เวลาเราในการทำงาน 

5. ตกลงกันในการร่วมแก้ปัญหา อาจต้องมีการประนีประนอม โปรดจำไว้ว่าการแก้ปัญหาไม่ได้มีวิธีตายตัวชัดเจน ทั้งสองฝ่ายจะต้องเห็นแก้เป้าหมายของการแก้ไขปัญหา 

 

7. ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาทุกฝ่าย

8. การติดตามผลการแก้ไขปัญฆา หลังจากเวลาผ่านไปพอสมควร เช็คให้แน่ใจว่าท่านรู้สึกอย่างไรกับข้อขัดแย้งนั้น หากท่านพอใจกับการแก้ปัญหา กรุณาแจ้งเราเป็นลายลักษณ์อักษร หากท่านยังไม่พึงพอใจ โปรดเริ่มกระบวนการใหม่อีกครั้ง 

(ข้อความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Parents Handbook 2022-2023)