ทำไมเขาถึงขึ้นลิฟท์มาไม่ได้?
ก็ลิฟท์มันเต็มไงคะ
ทำไมอะ?
ก็มีคนขึ้นมาเยอะแล้ว
ทำไมอะ?
สงสัยมันจะเป็นตอนเที่ยงพอดี คนก็เลยเยอะจนเต็มลิฟท์ค่ะลูก ถ้ามีคนขึ้นเกิน มันก็จะร้องและก็ไม่ยอมปิดประตูเลย
ทำไมอะ?
บทสนทนาแบบนี้รู้สึกคุ้นๆ กันไหมคะ มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนบ้างที่ได้ยินคำว่าทำไมวันละเกือบร้อยครั้ง ลูกขี้สงสัยเหลือเกิน ทุกๆ ครั้งที่ลูกถามทำไม มักจะต่อด้วยทำไมๆ อีกสามสี่ครั้ง
บางครั้งพ่อแม่จะเริ่มรู้สึกเหมือนโดนกวนโมโห แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะคะ
จริงแล้วนี่คือวิธีที่ลูกออกกำลังกายสมอง จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์อยู่ มักจะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 2.5-3 ขวบ
การถามว่า “ทำไม” แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการก้าวกระโดดของสมอง เพราะเด็กเข้าใจสิ่งที่อยู่ในชีวิตตัวเอง สิ่งที่เห็น สัมผัส และได้ยิน เขาจึงถามคำถามเพื่อเชื่อมต่อจุดเข้าด้วยกัน เพื่อที่จะเข้าใจนั่นเอง
ที่พ่อแม่ควรทำ คือ หาเวลาตอบ(สนอง)ลูก เพราะความขี้สงสัย การถามคำถาม เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับครูพบว่าเป็นสิ่งที่พาให้นักเรียนได้เรียนรู้ทุกอย่างด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีใครสอน
มีหัวข้อไหนไหมที่เราควรเลี่ยงตอบ?
ไม่มีค่ะ ถ้าเราอยากให้ลูกวัยรุ่นในอนาคตกล้าคุย กล้าถามอะไรเราทุกอย่าง เราต้องตอบลูกอย่างเต็มใจ และถ้ามีคำถามไหนที่เราไม่รู้จะตอบยังไง ก็ไปเซิสหาคำตอบและตอบให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
การตอบคำถาม ทำไม ของลูก มันไม่ใช่ว่าเราต้องไปหาเหตุผลของสิ่งนั้นตลอด เพราะจริงๆ เวลาลูกถามว่า ทำไม เขาไม่ได้หมายความว่า ทำไม ซะตรงๆ เขาอาจจะหมายถึง เขาสนใจสิ่งนี้ คุยเกี่ยวกับสิ่งนี้กันเถอะ
อย่างเช่น เวลาลูกถามว่า ทำไมฟ้าเป็นสีฟ้า? เราอาจจะตอบว่า ตอนกลางวันฟ้าจะเป็นสีฟ้า พอฝนจะตก ฟ้าจะเป็นสีเทาๆ มืดๆ พอตอนเย็นๆบางทีก็สีส้ม เหลือง แดง พอค่ำก็จะเป็นสีดำๆ
จะเห็นว่าเราแค่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกพูดถึง ไม่ได้ไปหาว่าทำไมฟ้าเป็นสีฟ้าจริงๆ
แน่นอนว่า เมื่อเราตอบคำถาม “ทำไม?” ของลูกรอบที่ 50 ไปแล้ว เราจะเริ่มเหนื่อยและหงุดหงิด
เทคนิค คือ ให้ถามลูกกลับ ว่าหนูบอกแม่สิ ว่าทำไม? ถ้าลูกยังไม่รู้ ให้ถามคำถามไกด์
“ถ้าเราวิ่งไม่ดูคนเลย จะเกิดอะไรขึ้น?” (ชนคน)
“แล้วคนที่โดนชนจะเป็นยังไง” (เจ็บ)
“แล้วหนูคิดว่าเขาจะชอบไหม?” (ไม่ชอบ)
“นั่นแหละเหตุผลว่าทำไม”
เวลาที่เราถามไกด์ให้ลูกตอบเอง มันดูจะเกิดกระบวนการคิดมากกว่า เข้าใจกว่าเวลาที่เราบอกและสั่งด้วยคำพูดสั้นๆและบ่อยๆลูกก็มีคำตอบของตัวเองอยู่แล้ว แค่อยากคุยเท่านั้นเอง
ส่วนใครที่ลูกยังไม่ถาม ก็อ่านหนังสือให้ฟังเยอะๆ นะคะ เพราะหนังสือมักจะเป็นแหล่งกระตุ้นความสงสัย เนื่องจากเขาจะเห็นภาพ ฟังเรื่องเยอะ เด็กก็อาจจะเริ่มถามจากการอ่านก่อนค่ะ