Open House – Dec 2020

เปิดบ้าน Carroll Prep สำหรับผู้ปกครองที่สนใจและกำลังหาโรงเรียนสำหรับระดับอนุบาลและประถมต้น โรงเรียนรูปแบบใหม่ที่สร้างมาเพื่อประโยชน์ของนักเรียนโดยเฉพาะ รับนักเรียนจำนวนไม่มาก เปิดจองล่วงหน้าสำหรับปีการศึกษา 2021, 2022, 2023

Open House – Dec 2020 รอบต่อไปวันที่ 20 ธันวาคม 2020 และวันที่ 17, 31 มกราคม 2021 เวลา 13:00 น. แล้วพบกันนะคะ

(เนื่องจากมีผู้ปกครองสนใจเป็นจำนวนมาก ทางโรงเรียนขอจัดรอบการเยี่ยมชม Open House และพูดคุยตามตารางนี้เท่านั้น ผู้สนใจสามารถกรอกฟอร์มด้านล่าง  จะมีเจ้าหน้าที่ โทรคอนเฟิร์มนัดล่วงหน้า 4 วัน ก่อนวัน Open House เพื่อที่เราจะจัดสถานที่ได้อย่างเหมาะสมค่ะ)

กรุณากรอกฟอร์มที่นี่ >> https://forms.gle/SyJiS6awJ1ZMbYHm6

แนวการสอนของเราเป็นแนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย อีกหนึ่งแนวการสอนที่เราใช้ที่ Carroll Prep

Reggio Emilia  คือ ชื่อเมืองเล็กๆ ในอิตาลี่   แนวการสอนนี้เขาบอกว่า เด็กเป็นศูนย์กลางและเป็นผู้สร้างโครงสร้างการเรียนรู้ เด็กแต่ละคนมีลักษณะที่เป็นตัวของตัวเอง มีศักยภาพและความสามารถในตนเองมาตั้งแต่เกิด มีบทบาทในการเรียนรู้ ไม่ใช่ว่าเราต้องสั่งให้ทำโน่นทำนี่ตลอด เหมือนพืชที่รอให้คนมารดน้ำอย่างเดียว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำให้เด็กแสดงความสามารถนั้นออกมาให้มากที่สุดผ่านความคิดและการลงมือทำสิ่งต่างๆ โดยมีครู พ่อแม่ เป็นผู้กระตุ้นให้เด็กแสดงความสามารถออกมา เรียนรู้ แก้ปัญหาไปพร้อมๆ กัน เด็กจะต้องมีความสัมพันธ์กับเพื่อน ครู พ่อแม่ และสังคมด้วย ไม่ใช่อยู่ตัวคนเดียวแยกออกจากการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เด็กๆจะได้รับการสอนว่าให้ความเคารพคนอื่น ๆ เพราะทุกคนเป็นส่วนสำคัญในสังคม

หลักการนี้ให้เปิดโอกาสให้เด็กพัฒนาตัวเองให้ถึงศักยภาพสูงสุด มีความเคารพ ความรับผิดชอบ สนับสนุนให้เด็กแสดงความคิดเห็น ไอเดียของตัวเองทุกอย่างที่ทำได้

การสอนด้วยแนวนี้ ยากพอสมควร เพราะครูจะต้องเตรียมโปรเจคโดยดูจากความสนใจของเด็ก ผ่านการทำ จับ การขยับ การฟัง การมอง เด็กจะต้องมีส่วนควบคุมทิศทางการเรียนรู้ของตัวเอง มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กๆ คนอื่น และมีปฏิสัมพันธ์กับของอื่นๆ ในโลกจริงๆ ต้องปล่อยให้เด็กได้สำรวจ เด็ก ๆ ต้องมีวิธีการและโอกาสในการแสดงออกอย่างไม่สิ้นสุด ผ่านช่องทางหลากหลาย เช่น วาดรูป ปั้น แสดงบทบาทสมมุติ การเขียน

ดังนั้น โปรเจคพวกนี้ ครูอาจจะไม่รู้ว่ามันจะไปจบตรงไหน ไม่รู้ว่ามันจะไปในทิศทางใด และครูต้องปล่อยให้เกิดความผิดพลาด แถมยังต้องจูงใจให้เด็ก ให้ตรงกับความต้องการ ความสนใจ ความสามารถ

ครูต้องไว้ใจตัวเอง ที่จะตอบสนองความคิดและความสนใจของเด็กได้อย่างเหมาะสม ครูจะเป็นเหมือนเพื่อนร่วมเรียนด้วย ไม่ใช่แค่คนแนะแนว ครูเตรียมกิจกรรมที่เหมาะกับความสนใจเด็ก ถามคำถามที่ช่วยให้เด็กเข้าใจมากขึ้น ครูทำความเข้าใจไปพร้อมๆกับเด็ก และเมื่อเด็กตอบ หรือแสดงความสนใจอะไรระหว่างทำกิจกรรม ครูต้องเก็บข้อมูล ครูต้องสามารถปรับเปลี่ยนทิศทางไปตามสิ่งที่เด็กสนใจจะเรียนรู้ได้

สิ่งแวดล้อม เปรียบได้เหมือนครูคนที่ 3 เป็นส่วนที่ทำให้เด็กรู้จักความหมาย ความเข้าใจกับโลก ซึ่งทำให้เด็กรู้จักความซับซ้อน, ความแตกต่าง, ความยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างคน โลกของประสบการณ์ ความคิดและไอเดียต่างๆในการแสดงความคิดเห็น

บทบาทของพ่อแม่ก็เป็นส่วนสำคัญ พ่อแม่ให้ความร่วมมือกับชุมชน ในโรงเรียน ในห้องเรียน มีส่วนร่วมในการอภิปรายเกี่ยวกับนโยบาย มีความห่วงใยในการพัฒนาเด็ก ร่วมวางแผนและประเมินผล

Reggio Emilia และ Montessori ต่างหรือเหมือนกันยังไง?

ทั้งสองปรัชญา เชื่อว่าเด็กมีความสามารถ มีไหวพริบ และมีอิสระในการเรียนรู้ และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กเสมือนเป็นสื่อการเรียนรู้เหมือนกัน

แต่ Reggio Emilia จะเน้นให้เด็กพัฒนาทักษะทางสังคมด้วย คือ ทำให้งานเป็นกลุ่มเล็กๆ ไปจนถึงระดับชุมชน สื่อสารกับคนอื่นๆ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคม แต่ Montessori จะให้เด็กทำงานอย่างอิสระ เป็นตัวของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องทำร่วมกับใคร และก็อาจจะแตกต่างแนวทางการสังเกตและบันทุกพัฒนาการเด็ก ที่แบบมอนเตสเซอรี่จะสังเกตแบบวิทยาศาสตร์มากกว่าตามที่เห็น ตามงาน แต่ของเรกจิโอจะดูไปหมดทั้งการพูด การสื่อสาร

แนวการสองของ Carroll Prep ใช้ทั้งสองแนวนี้มาผสมกัน ผสมกับประสบการณ์การสอนเด็กไทยมานานกว่า 15 ปี  เราให้เด็กมีทั้งเวลาที่ทำงานด้วยตัวเอง มีอิสระ โดยนักเรียนยังมีโอกาสทำงานร่วมกัน เล่นด้วยกัน เวลาเรียน คุณครูจะเริ่มให้เรียนรู้บริบทเกี่ยวกับสังคมใกล้ตัวก่อน เพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากรู้ เมื่อเด็กอยากรู้ เขาก็จะขวยขวายหาความรู้อย่างไม่รู้จบ