จากประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษเด็กไทยกว่า 20 ปี และงานวิจัยเกี่ยวกับการเรียนภาษาที่ 2 เรามีความเห็นตรงกันว่า สำหรับเด็กที่เรียนภาษาที่ 2 ในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษานั้นเป็นหลัก การเรียนทักษะหลักในภาษาแม่ (ภาษาบ้านเกิด) ของตนเองก่อนทำให้เด็กเรียนรู้ได้เร็วและราบรื่นกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักเรียนเริ่มเรียนทักษะวิชาการที่ซับซ้อน จากงานวิจัยพบว่าพัฒนาการช้าเร็วต่างในเมื่อเด็กเรียนชั้นประถม 3 นักเรียนที่เรียนทักษะต่างๆในภาษาตัวเอง มีพัฒนาการเร็วกว่า (อ่านวิจัยเพิ่มเติมด้านล่าง)

ในช่วงต้นของการเป็นนักเรียน โดยเฉพาะระดับปฐมวัย แคร์โรลล์ เพรพ ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการเรียนรู้ ทัศนคติ ทักษะสังคม ทักษะการดูแลตัวเองและพื้นที่รอบตัวมากที่สุด เพราะทักษะเหล่านี้ คือ ทักษะที่ช่วยสนับสนุนให้นักเรียนพัฒนาตัวตน ความมั่นใจ และทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต เราจึงเลือกให้นักเรียนเรียนรู้ทักษะเท่านี้ในภาษาที่ตนเองถนัดและเข้าใจได้ง่าย
การพูดคุยกับเด็กเกี่ยวกับพฤติกรรม การนั่ง การฟัง การเล่นกับเพื่อน การจัดการกับอารมณ์เมื่อพบปัญหา การให้กำลังใจให้เด็กรับผิดชอบหน้าที่ เป็นสิ่งที่เด็กควรได้รับโดยไม่มีอุปสรรคด้านภาษาเข้ามาปิดกั้น นักเรียนเรียนรู้ได้ไวกว่าถ้านักเรียนเข้าใจชัดเจนว่าครูต้องการอะไร พฤติกรรมใดที่ครูสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน ต้องทำตัวอย่างไร เล่นกับเพื่อนอย่างไรถึงเรียกว่าดี ฟังแบบไหนจะเข้าใจง่ายที่สุด ดีที่สุด

ในมุมมองของผู้ใหญ่ อาจลองจินตนาการว่า หากเราต้องเรียนแคลคูลัสหรือการเขียนโปรแกรมในภาษารัสเซีย ซึ่งเป็นภาษาที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เราจะเข้าใจในภาษาไทยหรือภาษารัสเซียมากกว่ากัน เช่นเดียวกันกับเด็ก ทักษะพื้นฐานเหล่านี้อาจดูง่ายและทั่วไปสำหรับผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็ก มันคือความยากและท้าทาย
แน่นอนว่า ภาษาเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเช่นกัน เราจึง Exposure ภาษาผ่านการเล่นให้เด็กๆ ถึง 4 ภาษา ใช้ภาษาไทยและอังกฤษเป็นภาษาหลัก มีเป้าหมายทางวิชาการสำหรับแต่ละระดับชั้นที่ชัดเจน โดยดูจากความต้องการของเด็กแต่ละคน
เราเตรียมพร้อมให้เด็กๆ คุ้นเคยว่าภาษามีความหลากหลาย เด็กๆต้องตั้งใจฟังและพยายามเข้าใจ ว่าผู้พูดกำลังสื่อสาร นักเรียนของเรามีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี สามารถฟังพูดกับครูต่างชาติได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีความสุข

ภาษาไม่ใช่ทักษะเดียวที่จะทำให้เด็กสมัยใหม่อยู่รอดได้ในอีก 20 ปีข้างหน้า เพราะในปัจจุบันภาษาก็ไม่ใช่ตัวกำหนดความสำเร็จและความสุข คอมพิวเตอร์สามารถแปลภาษาให้เราได้ใกล้เคียงมากขึ้นทุกวัน และอีกไม่นานคอมพิวเตอร์จะสามารถแปลให้เราได้ 100% ในทุกภาษา สิ่งที่คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ คือ การบอกเล่าประสบการณ์ ความคิด ไอเดีย หากขาดความคิดและไอเดียแล้ว ถึงมีทักษะทางภาษา เด็กก็ไม่มีอะไรจะพูดหรือแชร์อยู่ดี
พัฒนาเด็กจึงต้องพัฒนาทุกด้าน ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม ที่ทำให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จและมีความสุข